คาถาราหูเรียกทรัพย์ โดย พระราหู เป็นชื่อของดาวเคราะห์ในทางโหราศาสตร์ที่เชื่อว่า หลาย ๆ คนจะต้องเคยได้ยินคำบอกเล่าอย่าง ราหูอมจันทร์ หรือ ราหูเข้า และ อาจจะเคยได้ยินว่า “พระราหูกำลังจะย้ายครั้งยิ่งใหญ่” ให้เราเตรียมไหว้พระราหูเพื่อความเป็นสิริมงคล เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี เรียกทรัพย์รับโชค แล้วพระราหู คือ อะไรกันแน่ ใช่ดาวจริง ๆ หรือ ทำไมพระราหูถึงส่งผลกระทบต่อดวงชะตาขนาดนั้น แล้วเราจะต้องทำอย่างไรกันบ้าง เพื่อให้ดวงชะตาของเรากลับมาดีได้เมื่อพระราหูเกิดย้ายขึ้นมา เรามาคลายข้อสงสัยเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันว่าพระราหู คือ อะไรกันแน่
พระราหู คืออะไรกัน
ในทางคติของศาสนาฮินดู และ ศาสนาพุทธ กล่าวกันว่า พระราหู เป็นอสูร และ เทวดานพเคราะห์องค์หนึ่ง บางคนจะเรียกพระราหูว่าเป็น “ดาว” แต่ในทางดาราศาสตร์จริง ๆ แล้ว พระราหูไม่มีตัวตน แต่ คือ “เงา” ที่พาดทับกันระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ โลก ซึ่งนำมาซึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญสองปรากฏการณ์ก็ คือ “สุริยุปราคา” และ “จันทรุปราคา” หรือ ที่เราเคยได้ยินกันว่า “ราหูอมจันทร์” และ “ราหูอมพระอาทิตย์” นั่นเอง
โดยทั่วไปเรามักจะเข้าใจกันว่า พระราหู เป็นสิ่งน่ากลัว เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็มักจะนำมาซึ่งทุกข์ภัย เคราะห์กรรม สิ่งไม่ดีต่าง ๆ นา ๆ แต่แท้จริงแล้ว พระราหูก็เหมือนดวงดาวอื่น ๆ ที่โคจรอยู่บนฟ้ามีอิทธิพลต่อดวงชะตาทั้งในทางที่ดี และ ไม่ดี ไม่ต่างกันครับ สำหรับพระราหูอาจให้ผลในทางโชคลาภก็เป็นได้ ดังนั้น การที่พระราหูเคลื่อนย้ายก็ไม่ได้หมายความว่า ดวงของเรากำลังจะตก แต่อาจหมายถึงเรากำลังจะมีลาภ หรือ ได้โชคจากความหลักแหลมจากพระราหูอยู่ก็เป็นได้
ไหว้พระราหูกันยังไง
ตามตำราทางโหราศาสตร์แล้ว คนที่เกิดวันพุธกลางคืน วันอังคาร และ วันเสาร์ คือ คนที่ขึ้นตรงต่อดาวพระราหูมากที่สุด แต่วันพุธถือเป็นวันประจำของพระราหู เค้าก็เลยถือกันว่า วันพุธกลางคืน คือ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการไหว้พระราหู ส่วนในเรื่องของของไหว้นั้น ควรมี 8 อย่าง ตามลำดับของพระราหูที่ถือเป็น เทวดาในลำดับนี้ หรือ 12 ก็ได้เหมือนกัน สีพระกายของพระราหูนั้น จริง ๆ แล้วเป็นสีน้ำตาลไหม้ ไม่ใช่สีดำ แต่เนื่องจากของไหว้ที่เป็นสีดำนั้นหาง่ายกว่า เราจึงนิยมบูชากันด้วยของดำ อย่างเช่น
- ไก่ดำต้ม
- ปลาดุกย่าง
- เหล้าดำ
- กาแฟดำ
- เฉาก๊วย
- โค้ก หรือ น้ำหวานที่มีสีดำ
- ซุปไก่
- งาดำ
- ถั่วดำ
- ข้าวเหนียวดำ
- สาหร่ายดำ
- ไข่เยี่ยวม้า
ถ้าไม่สามารถหาของดำมาครบได้ตามรายการข้างต้น อาจเปลี่ยนเป็นอาหารอย่างอื่นที่ปรุงสุกดีแล้ว และ สามารถกินได้ โดยจะต้องมีสีดำมาเสริมแทนได้
ขั้นตอนวิธีไหว้พระราหู
ก่อนไหว้ต้องเตรียมเพิ่มนอกจากของดำ 8 หรือ 12 อย่างตามที่เตรียมมาแล้ว ก็จะมี รายละเอียดดังนี้
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- ดอกไม้สีดำ
- ธูปตามจำนวนของไหว้ (ไหว้ด้วยของดำ 8 อย่างก็ใช้ 8 ดอก ไหว้ด้วยของดำ 12 อย่างก็ใช้ธูป 12 ดอก) ถ้าสามารถหาธูปดำได้จะดี
ทิศในการไหว้นั้นให้เราหันไปทาง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และ ควรจะไหว้กลางแจ้ง ไม่แนะนำให้ไหว้พระราหูที่บ้าน หรือ ในบ้าน จุดธูปเทียน แล้วเริ่มท่องนะโม 3 จบ ตามด้วย บทสวดคาถาบูชาพระราหู ดังนี้
คาถาราหูเรียกทรัพย์
ก่อนเริมบทสวดให้ท่องนะโม 3 จบก่อน แล้ว ท่องคาถาบูชาพระราหูดังนี้
กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ
กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พระคาถาสุริยาบัพพา
กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ
โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ
โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ
พระคาถาจันทบัพพาเพื่อ คาถาราหูเรียกทรัพย์
ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง
มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ
กาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ*แล้วจึงเริ่มกล่าวคำถวายเครื่องสังเวยพระราหู
นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผัง
สักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะ
สัมปันนัง โภชะ นานัง
สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง
อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา
หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา
มะหิทธิกา เตปิ อัมเห
อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ
เยนะ สุเขมะจะฯ
จบด้วย คาถาราหูเรียกทรัพย์
*โดยจะต้องสวดทั้งหมด 12 จบตามกำลังของพระราหู
คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ (12 จบ)
ข้าพเจ้า (ชื่อ นามสกุล) ขอบูชาพระราหูด้วยของดำ (8 หรือ 12) อย่าง ขอให้อิทธิพลของดาวราหูจงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า ขอให้ได้พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคร้ายใด ๆ ขอให้เกิดความสุขในครอบครัว ขอให้ดาวราหูประทานพรโชคลาภ และ ความสำเร็จแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ (อธิษฐานเรื่องอื่น ๆ ได้ตามปรารถนา)
จากนั้น เมื่อธูปใกล้จะมอดหมด เราควรจะมีพิธีการลาของไหว้ โดยเราจะนำของไหว้ต่าง ๆ มารับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนกินจะต้องไม่ลืมท่องคาถา
“คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ”
จากนั้น เพื่อเสริมเติมมงคลให้กับชะตาชีวิต เราควรไปทำบุญไหว้พระด้วยวิธีใส่บาตรพระ 8 หรือ 12 รูป ทำบุญถวายสังฆทานที่เกี่ยวกับแสงสว่าง อย่างเช่น บริจาคหลอดไฟ บริจาคค่าไฟ หรือ เติมน้ำมันตะเกียง เป็นต้น หรือ เพียงแค่สวดมนต์ท่องคาถาบูชาพระราหูเป็นประจำทุกวันพุธกลางคืน เพียงเท่านี้ พระราหูที่ว่าจะนำเคราะห์กรรม ภัยร้าย ก็จะกลับกลายเป็นนำมาซึ่งสิ่งดี ๆ ในชีวิตแล้ว
เราได้ทำความรู้จัก “พระราหู” พร้อมวิธีไหว้สักการะกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะทำให้ท่านคลายข้อสงสัย และ ได้นำวิธีการดังกล่าวไปปฏิบัติเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดีกัน อย่างไรก็ตาม อยากจะฝากเอาไว้ว่า นอกจากการไหว้สักการะพระราหูแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเราดำเนินไปอย่างเป็นสุข ก็ คือ การมีสติ คิดอย่างรอบคอบ และ การไม่ประมาท เมื่อรวมกับการทำบุญและบูชาดังกล่าวแล้ว ชีวิตก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ ยังผลให้ภัยอันตรายใดใดก็ไม่สามารถย่างกลายมาได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก WongNai